วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเลือกซื้อ สายกระโดดเชือก แบบน้ำน้ำหนักเบา

                               



หล่อนแหวขึ้นอีก “มึงว่าอะไรนะ นี่ผัวกู”หันไปถามประกิตอีก “ว่าไงบอกมาเลย จะกลับไหม"ชายเจ้าชู้ไม่ตอบได้แต่พยักหน้าหล่อนจึงบอก “ก็ลุกสิ” หนุ่มเมียสอง ค่อยๆ ยันกายอย่างยากลำบากอาศัยฝาบ้านประคองตัวยืนขึ้นตรงแหนวหญิงร่างอ้วนใหญ่โบกมือพร้อมบอก “เดิน”ประกิตปฏิบัติตามอย่าง ว่างาย และต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อหล่อนกระแทกเสียงทางเบื้องหลัง “เดี๋ยวยันโครม อ้อยล้อยนัก” เมื่อทั้งสองออกไปแล้ว ก็นั่งคิดยอมรับในเวรกรรมของเรา เชือกกระโดดราคา ที่ทำไว้ผมขัดจังหวะขณะวันเพ็ญหยุด “ไม่เสียใจหรอกหรือที่ถูกทิ้ง”หล่อนได้ตอบ “จะทำอย่างไงได้ล่ะ แต่ไม่หรอกนะ เขาหายไปสองเดือนคงถูกคุมตัวแจ ก็ตัดใจไว้แล้วจะเลิกกับพี่กิตเด็ดขาดเพราะกลัวคำขู่อยู่เหมือนกัน”

ครั้นแอบกลับมาหาอีก ก็ขอร้อง “เราเลิกกันเถอะ” ประกิตน่ะกลัวเมียโน้น แต่สำหรับฉันตีหน้ายักษ์เข้าใส่“อ๋อ มึงจะถือโอกาสมีผัวใหม่ใช่ไหมอีเพ็ญ” ก็รีบยืนยัน “เปล่าเลย”“แต่เมียพี่อาฆาตไว้จะเอาให้ถึงตายหรอพิการ"ประกิตโบกมือกบ1ว่า “เอ้ย มันก็พูดไปอย่างงั้นเอง ไม่กล้าหรอก” วันเพ็ญบอกหล่อนหัวเราะและเถียง “แล้ววันนั้นโดนปันกับข้างฝาร้องจะเป็นจะตายทีเดียว นั่นน่ะเหรอะไม่กล้า ไปซะเถอะ ฉันไม่อยากให้มีเรื่องอีก”พูดอย่างไงประกิตไม่ยอมท่าเดียวจึงหาทางทำอย่างไรจะเลิกกับเขาได้โชคดีหน่อยที่ไม่มีลูก กระโดดเชือกลดน้ำหนัก ให้เป็นเรื่องยุ่งยาก เลยแกล้งพูดหลอกเขาว่า

“เพ็ญมีแฟนแล้วทำงานในห้างเดียวกันทางที่ดีต่างคนต่างไปเถอะนะขอเลิกอย่างเด็ดขาด”เขาโวยวายเป็นการใหญ่ และเสียงดัง “มึงลองสิอีเพ็ญกูฆ่าแน่ทั้งมึงและชู้” ก็เถียงว่า “หายหน้าไปคิดว่าไม่มาแล้ว” วันนั้นประกิตทำร้ายฉันอย่างรุนแรง จนต้องเข้าโรงพยาบาลลางานเกือบอาทิตย์เมื่อหายจึงกลับเข้าทำงานอย่างเดิม ได้ปรึกษากับเพื่อนหญิงซึ่งเมื่อรู้ฉันถูกทารุณกรรมเกิดความสงสารและเห็นใจ ซ้ำยังตกเป็นเมียน้อยอีกดวยจงออกหัวคดให้เพื่อนชายคนหนึ่งชื่ออนัน สมอ้างเป็นคนรักใหม่ ซึ่งครั้งแรกลันหน้าบอก “เอ้ยไม่เอา เกิดแฟนจริงๆ ทำร้ายเราเจ็บตัวเปล่า ไม่สนุกนา”อัญชลีเพื่อนฉันคนนั้นต้องพูดหลอกล่อ “โธ่ในห้างคนเยอะแยะ ใครละจะกล้า เชือกกระโดดไร้สาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดกัยก็มีเป็นสิบ น่าช่วยเพ็ญมันหน่อยเกอะ”อนันปฏิเสธอีกโดยอ้าง “อย่าลืมนะอัญคนลองหน้ามีดทำได้ทุกอย่างแหละ ไม่เอา ไม่เอา” พูด'จบยกมือโบก,ไปมา

“กันเพ็ญหล่อนต้องอ้างเหตุผลเพี่อให้อนันเห็นใจ เขามีเมียอชู้แล้วยังijด้วย ถ้านันช่วยจะได้ไม่มาอีกไง นะ” อนันตรึกตรองอยู่นานจึงพยักหน้าและว่า “เพื่อเพื่อนฝูงแต่อย่าให้เดือดร้อนถึงกับมีเรื่องหรือเจ็บตัวแล้วกัน”อัญชลีได้ที จึงรีบบอก “แหม อยากดูนักในห้างคนมากมายถ้ากล้าก็เกินไปละ จะเอาเข้าคุกให้ดู”และเย็นวันนั้นกำลังจะออกเวร ประกิตแอบหนีเมียมาเพื่อดูว่าที่วันเพ็ญบอกมีแฟนใหม่จริงหรือไม่ ครั้นเห็นเดินออกมาจากห้างด้วยกันทั้งลามเพื่อเนรถเมล์ จึงเข้าขวางหน้าพูดขึงขัง “กลับบ้านเดี๋ยวนี้เพ็ญพื่มารับ”กำลังเดินต้องสะดุ้งหยุดกึกเพราะตกใจอยู่บ้าง แต่วันเพ็ญรีบกลบเกลื่อนอาการแล้วทำตามแผนซึ่งคุยกันไว้ โดยหลบเข้าหลังอน้นโดยไว กับบอก “เราเลิกกันแล้วนะทิต อย่าต้องให้เมียพื่มารังควานอีกเลย”ประกิตรู้สึกจะดื่มเหล้าย้อมใจมาด้วยเพราะเสียงลิ้นคับปาก ชี้หน้าอนันและเอ่ยขึ้นเสียงดังจนคนที่ยืนคอยรถประจำทางอยู่เต็มหันมองเป็นแถว

“มึงเหรอะผัวใหม่เมียกู จะแจ้งตำรวจจับฐานเป็นfกัน”ตอนนั้นฉันแทบแทรกแผ่นดินหนี อัญชลีก้าวออกไปยืน เชือกกระโดดนับรอบ ประจันหน้าแล้วต่อคำแทนวันเพ็ญ “ก็เอาซี่หน้าไม่อาย ทั้งรีดไถ ดื่มเหล้าสารพัด ซามีเมียอยุ่แล้ว อยากรู้นักตำรวจจะเห็นใจใคร เอาเลยไปแจ้งความเดี๋ยวนี้ เราสามคนจะไปโรงพักด้วย”ประทิตโกรธเต็มที่ หันเร็วไปที่ผู้กำลังด่าแล้วว่า “คุณเป็นใคร อย่ายุ่งเรื่องผัวเมีย เดี๋ยวเจ็บหรอก” พูดจบจะเข้าจับมือวันเพ็ญเพื่อกระชากให้ไปกับตนแต่อัญชลีด้วยความหมั่นไล้กับเห็นใจเพื่อนที่ไม1กล้าต่อล้ด้วย จึงเข้าขวางและพูดขึ้น “ฉันเป็นพี่สาวไม่ยุ่งได้หรือ ไปซะดีกว่า ไม่งั้นเห็นดีกัน”ประทิตเถียงอย่างเร็ว “ไม่จริง เพ็ญไม่เคยบอกมีพี่สาว”เพื่อนของวันเพ็ญโต้ทันควัน “ก็ฉันบอกเดี๋ยวนี้ไง” จะเถียงกันต่อ

เชือกกระโดด

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ควรสำนึกในบาป และ บุญ ที่บาร์โหนได้ให้กำเนิดมา

                                       





 แทนที่บุญเรืองจะรู้สึกในบาปบุญ กลับหัวเราะกรอกเสียงตอบ “ข้ายังคิดเหมือนลูกชายเลยโว้ยหนอม พวกเวรนั่นมันเป็นใครสะเออะหน้ามาท้ารบกับลูกชายนายเรือง”ผมทนไม่ได้ที่มันแสดงความเย่อหยิ่งจึงบอก “อ้าว แล้วเอ็งไปขอโทษเขาทำไมถึงบ้านวะ”เพื่อนตอบเสียงอ่อย “ไม่อยากให้เรื่องยาว ข้าคนทำมาหากิน”ผมฟังมัน,ขัดหู1จริงๆ จึงสวนคำทันทีโดยไม่กลัวมันโกรธ “หากินทางคอร์รัปชันใช่ไหมวะไอ้คุณบุญเรือง” บาร์โหนราคา เพื่อนร้องขึ้นด้วยนั้าเสียงเกรี้ยวกราด “เอ้ยๆ อย่าปากพล่อยนาโว้ยหนอม ใครดักฟังข้าเสียชื่อหมด”ผมรีบตอบพร้อมหัวเราะ “ข้าพูดเรื่องจริงกลัวอะไรวะ”เพื่อนคงไม่อยากต่อคำกับผมอีก จึงบอกเลิกเอาดื้อๆ “แค่นี้นะโว้ยหนอม ขี้เกียจเสียเวลาคุยกับเอ็ง”ผมก็ว่า

“เออ ข้าเองไม่อยากคุยนักหรอกเพราะเอ็งเป็นเศรษฐีแล้ว แต่ที่โทรหาเพราะอยากเตือน ผลกรรมเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นแล้วนะเพื่อน”พูดจบรีบวางหูเพราะไม่ต้องการได้ยินเสียงโอ้อวดของเพื่อนจากนั้นได้ติดตามชีวิตของบุญเรืองต่อไป เพื่อต้องการอยากพิสูจน์บาปกรรมที่ผมกราบไหว้พระแทบทุกวัน และขอให้ประจักษ์ตาลักครั้งเถิดจะเป็นจริงหรือไม, ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่ากรรมมีจริงเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ สามสี่เดือน ลูกชายของบุญเรืองคนที่สองก่อเรื่องขึ้นอีก บาร์โหนติดประตู  คราวนี้ขับรถปาดหน้า1วัยรุ่นด้วยกัน แล้วลงมาซักปีนจ่อหัวคู่อริเลยถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า บุญเรืองวิ่งเต้นกว่าเรื่องจะสำเร็จ เสียไปหลายล้าน เพราะวัยรุ่นคนนั้นเกิดเป็นลูกนายทหารยศนายพลเอก ข่าวว่าเรียกทั้งลูกทั้งบุญเรืองไปด่าเสียปนปีหมด“ลื้อแน่แคใหนระ” ท่านผู้นั้นขึ้หน้าขณะถามบุญเรืองยกมือไหว้ ตอบเสียงลัน “ไม่ครับ” ท่านนายพลลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้รับแขก หัวเราะแค่นก่อนถามอีก “ไม่แล้วทำไมเห็นคนเป็นสัตว์นึกจะยิงก็ยิงอย่าง บาร์โหนติดผนัง งั้นเหรอะ”

“เอางี้” ท่านพยักหน้าไปที่ลูกชายบุญเรือง แล้วบอก “ต่อยกับลูกอั๊วเอาไหมตัวต่อตัว”
ไอ้หนุ่มลูกเลขานักการเมืองส่ายหน้าตอบเสียงละห้อย “ไม่ครับ”นายพลผู้นั้นหัวเราะและถาม “อ้าว ก็เก่งไม่ใช่เหรอะ นี่ถ้าลูกอั๊วเป็นชาวบ้านธรรมดา ลื้อคงเรียกไปตบ เหมือนเคยทำกันคนอื่น ตามที่หนังสือพิมพ์เคยลงใช่ไหม เดี๋ยวเอาเข้าคุกซะหรอก”“อ'วขอบอกนะ: เงินห้า'ล้านที่ลื้อให้เพื่อยอมความปะไม่สนหรอก จะเอาไปทำบุญให้หมด ประวัติลื้อรู้ทั้งนั้น ระวังตัวเอาไว้”บุญเรืองยกมือไหว้อีกครั้งพร้อมพูดขอร้อง “กรุณาเถอะครับ ผมก็ให้ลูกมากราบขอโทษแล้ว”ท่านนายพลตวาดเสียงห้วน “เออ อย่าถือเป็นนักการเมืองแล้วทำอะไรตามใจชอบ สักวันเถอะอาจเข้าคุก ลื้อออกไปจากบ้านอั๊ว”บุญเรืองกับลูกถูกไล่อย่างไม่แยแสจากท่านนายพล ทั้งสองต้องรีบยกมือไหว้ปลกอีก แล้วลนลานออกจากบ้านหลังใหญ่ ขับรถออกด้วยหัวใจระทึก  บาร์โหนทำเพิ่มกล้าม อ่านข่าวแล้วยังนึก เห็นไหม ผลกรรมไม่จำเป็นต้องเจ็บไข้ได้ปวย หรืออดอยากไม่มีจะกิน คนรวยก็ถูกด่าได้เซ่นกันผมเองยังเคยด่าบรรดาพวกใหญ่โตมาแล้ว แต่ในใจนะครับไม่ให้ใครได้ยิน เดี๋ยวหาว่าละลาบละล้วง หรือไม,จะโดนคดีหมิ่นประมาท เดี๋ยวนี้ฟ้องกันจ้าละหวั่นจนคดีล้นศาลหรือยังไม่รู้ หมิ่นกันไปมาให้อีนุงตุงนังไปหมดพวกนักการเมืองน่ะบางทีไม่ด่าอย่างเดียวอยากจุดรูปสาปแช่งไปเลยเจ้าประคูน ให้ตกนรกหมกไหม้หากผู้ใดโกงชาติและประชาซนผู้เสียภาษีไปให้พวกท่านมีอำนาจบาตรใหญ่ เฮ้อ ว่าจะไม่ด่าให้ใครรู้แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไรมิได้ออกชื่อใคร อย่ากินปูนร้อนท้องไม่งั้นจะด่าอีก

บาร์โหน