ทำไมคุณไสยมนต์ดำต้องเป็นของเขมรถึงจะขลัง ด้วยเพราะว่าเขมรเป็นเจ้าของตำราเดรัจฉานอวิชชาคุณไสยมนต์ดำและมนต์ขาว ที่มีมาแต่โบราณกาล ไต้เผยแพร่มาดินแดนสุวรรณภูมิ และไสยศาสตร์ดังกล่าวจึงมีอิทริพลต่อคนสยามประเทศจากอดีตเรื่อยมาจนตราบทุกวันนี้ท่านผู้เล่านามสมมติซื่อลุงทองก้อน มีภูมิลำเนามาแต่กำเนิดอยู่แนวชายแดนไทย-เขมรมาชั่วหลายอายุคน และมีความเซื่อว่าไสยศาสตร์มีจริงเปิดเผยให้ฟังว่าเรื่องอีเป๋อกับพระงั่งหรือไอ้งั่งแกได้ยินสรรพคุณจากคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังนานแล้ว ห่วงยางแฟนซีราคา แต่ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะคนไทยที่อยู่ตามซนบทนิยมที่จะบูชาพระเครื่องมากกว่าอีเป๋อหรือพระงั่ง อาจเป็นเพราะถูกปลูกฝืงจากป่ย่าตาและยายหรือพ่อแม่ได้ถ่ายทอดความเชื่อดังกล่าวนี๋ให้ลูกหลานแล้วถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเรื่อยมาจนถึงรุ่นแกแม้ช่วงที่แกบวชเป็นพระยังมีพวกเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านเอาอีเป๋อกับพระงั่งมาให้ดู และแกก็ดูไม่เป็นว่าเป็นของจริงหรือของปลอม แต่พวกมันยืนยันนอนยันเป็นของจริง เช่าห่วงยาง เพราะขโมยของป่มา หากโกหกให้พวกมันตกนรกพับผ่าสิ
แกได้แต่ดูอีเป๋อกับพระงั่งไปอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ไม่มีความรู้ทั้งไม่อยากจะให้เด็กมันเสียกำลังใจ มันยังเสนอขายอีเป๋อกับพระงั่งให้ราคาไม่แพงนัก แกซื้อแล้วไม่รู้จะเอาไปทำประโยชน์อะไรได้บ้าง แต่ไม่อยากจะขัดใจพวกมันซึ่งเป็นหลานของแกด้วย จึงตกลงซื้ออีเป๋อกับพระงั่งสองตัวไว้บังเอิญแกได้รับหมายเรียกไปเกณฑ์ทหารจากทางการขณะยังบวชเป็นพระ พ่อแม่ไม่อยากจะให้แกเป็นทหารกลัวจะไม่มีใครช่วยทำนา ห่วงยางแฟนซีขายส่ง ด้วยมีแกเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัว นอกนั้นเป็นลูกผู้หญิงหมด เห็นแม่ไปจุดธูปบนบานบอกกล่าวที่ศาลปูตา ตลอดจนกระดูกของปูที่วัด เพราะไม'อยากจะให้แกโดนทหาร ในส่วนลึกของแกแล้วอยากจะเป็นทหารไปรับใช้ชาติแต่ก็เป็นห่วงพ่อแม่ไม่มีใครช่วยทำนาทำไร่ กลายเป็นความกังวลห่วงหน้าห่วงหลังจนเครียด ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นานยังหาทางออกไม่เจอจนกระทั่งถึงวันนัดไปเกณฑ์ทหาร แกกับเพื่อนที่ยังไม่ได้บวชพระหรือบวชพระแล้วสึกพากันไปอำเภอตามหมายเกณฑ์ทหาร ซึ่งใบย่ามของแกนั้นมีอีเป๋อกับพระงั่ง ห่วงยางหงส์เป่าลม ครั้นได้เวลาก่อนจะจับใบดำใบแดง แกได้เอามือล้วงย่ามลูบๆ คลำๆ อีเป๋อกับพระงั่งช่วยตัดสินใจเรื่องนี้ให้ด้วย ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรรับได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับดวงและโชควาสนา เหมือนจะเกิดปาฏิหาริย์หรืออะไรทำนองนี้แหละให้ปรากฏ ไม่รู้ว่าเป็นอีเป๋อหรือพระงั่งเคลื่อนไหวดิ้นไปมา ทั้งที่แกเอามือลูบคลำอยู่ ทำเอาแกผงะและตกใจเล็กน้อย ถึงกับรีบซักมือดึงออกจากย่ามที่สะพายอยู่บนบ่า ไม่กล้าที่เปิดย่ามดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น สมองคิดสับสนไปหมดตอนนั้นพลันมีเสียงเรียกซื่อแกดังผ่านเครื่องขยายเสียง แกเดินไปยื่นหมายเรียกให้ผู้รับผิดชอบดู จากนั้นแกถูกให้แพทย์ทหารตรวจร่างกาย ทุกอย่างทำตามขั้นตอนตามระเบียบของทหาร แกผ่านการตรวจร่างกายประเภทดี
1 ร่างกายสมบูรณ์ ได้เข้าแถวเพื่อจับใบดำใบแดง มีเสียงเชียร์ของญาติๆที่มาเป็นกำลังใจให้คนของตนดังกระหึ่ม แกพลอยตื่นเต้นไปด้วยกับเสียงเชียร์ดังกล่าวนี้ด้วยใจระทึกเพื่อนๆ ที่อยู่แถวหน้าเดินไปจับใบดำใบแดงอย่างเป็นระเบียบทึละคน ใครจับได้ใบดำก็จะมีเสียงเฮดังลั่น ใครจับได้ใบแดงจะมีเสียงเชียร์และเสียงครางดังผสมผสานกัน นั่นเป็นบรรยากาศการเกณฑ์ทหาร มีทั้งสุขและทุกข์คละกัน จนมาถึงแกเดินไปล้วงในบาตรพระ ห่วงยางชายหาด เอามือค้นม้วนกระดาษในบาตรไปมาหลายรอบ ก่อนจะหยิบม้วนกระดาษขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วยื่นให้กรรมการที่เป็นทหารเปิดคลี่ม้วนกระดาษออก ปรากฏว่าเป็นใบดำแกทั้งดีใจและเสียใจ ก่อนจะเดินไปหาผู้รับผิดขอบเพื่อรับเอกสารว่าได้ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว และครั้งนั้นมีเพื่อนรุ่นเดียวกันจับได้ใบแดง 3 คน นอกนั้นรอดจับได้ใบดำกันรวมทั้งแกกลับมาวัดมีแม่และพี่กับน้องๆ รอฟ้งข่าวดีหรือข่าวร้ายว่าแกจะจับได้ใบดำหรือใบแดง พอรู้ว่าแกจับได้ใบดำแม่แสดงความลิงโลดดีใจถึงนํ้าตาคลอเบ้า ส่วนพื่กับน้องได้แต่ดีใจอย่างสงบไม่กล้าแสดงออกเหมือนแม่หลังจากที่จับได้ใบดำแกนอนครุ่นคิดถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในย่ามวันเกณฑ์ทหาร ยังเอาอีเป๋อกับพระงั่งออกมาดู เพื่ออยากจะรู้ว่าอีเป๋อหรือพระงั่งกันแน่ที่ทำให้แกจับได้ใบดำ แต่แกก็ค้นหาความจริงไม่พบ ได้แต่มองดูอีเป๋อกับพระงั่งที่วางอยู่บนย่ามพระ แต่ในใจลึกๆ จะต้องพิสูจน์หาความจริงกับเรื่องนี้ให้ได้ว่า
ปาฏิหาริย์เกิดจากอีเป๋อหรือพระงั่งกันแน่ที่ทำให้แกรอดพ้นจากการจับได้ใบแดง แกเก็บความสงสัยนี้เรื่อยมาจนกระทั่งลาสิกขาบทจากพระ กลายเป็นทิดสึกใหม่ศีรษะยังโล้นอยู่ แพยางเป่าลม ต้องสวมหมวกยามที่ออกจากบ้านไปไหนมาไหนทุกครั้งต่อมามีเพื่อนคนหนึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิด เป็นเพื่อนรุ่นพื่ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว เขาโชคไม่ดีจับได้ใบแดงไปเป็นทหารรับใช้ขาตินานอยู่สองปี หลังจากที่ปลดประจำการเพื่อนคนนี้เช้ากรุงเทพฯ ไปทำงาน จะส่งเงินมาให้พ่อแม่กับพี่และน้องทางบ้านใช้ จะกลับมาบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือเช้าพรรษาเท่านั้น และล่าสุดมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ แกถือโอกาสไปหาเพื่อนรุ่นพื่ที่บ้านเขา มีการเลี้ยงเหล้ากันตามธรรมเนียมของเจ้าภาพที่มาจากแดนไกล ซึ่งมีทั้งญาติและเพื่อนมาร่วมวงดื่มเหล้าด้วยกับและเพื่อนคนนี้ยังพูดเปรยๆ ลอยตามลมเหมือนจะสื่อบอกให้เพื่อนๆ รู้
ห่วงยางแฟนซี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น