วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ควรสำนึกในบาป และ บุญ ที่บาร์โหนได้ให้กำเนิดมา

                                       





 แทนที่บุญเรืองจะรู้สึกในบาปบุญ กลับหัวเราะกรอกเสียงตอบ “ข้ายังคิดเหมือนลูกชายเลยโว้ยหนอม พวกเวรนั่นมันเป็นใครสะเออะหน้ามาท้ารบกับลูกชายนายเรือง”ผมทนไม่ได้ที่มันแสดงความเย่อหยิ่งจึงบอก “อ้าว แล้วเอ็งไปขอโทษเขาทำไมถึงบ้านวะ”เพื่อนตอบเสียงอ่อย “ไม่อยากให้เรื่องยาว ข้าคนทำมาหากิน”ผมฟังมัน,ขัดหู1จริงๆ จึงสวนคำทันทีโดยไม่กลัวมันโกรธ “หากินทางคอร์รัปชันใช่ไหมวะไอ้คุณบุญเรือง” บาร์โหนราคา เพื่อนร้องขึ้นด้วยนั้าเสียงเกรี้ยวกราด “เอ้ยๆ อย่าปากพล่อยนาโว้ยหนอม ใครดักฟังข้าเสียชื่อหมด”ผมรีบตอบพร้อมหัวเราะ “ข้าพูดเรื่องจริงกลัวอะไรวะ”เพื่อนคงไม่อยากต่อคำกับผมอีก จึงบอกเลิกเอาดื้อๆ “แค่นี้นะโว้ยหนอม ขี้เกียจเสียเวลาคุยกับเอ็ง”ผมก็ว่า

“เออ ข้าเองไม่อยากคุยนักหรอกเพราะเอ็งเป็นเศรษฐีแล้ว แต่ที่โทรหาเพราะอยากเตือน ผลกรรมเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นแล้วนะเพื่อน”พูดจบรีบวางหูเพราะไม่ต้องการได้ยินเสียงโอ้อวดของเพื่อนจากนั้นได้ติดตามชีวิตของบุญเรืองต่อไป เพื่อต้องการอยากพิสูจน์บาปกรรมที่ผมกราบไหว้พระแทบทุกวัน และขอให้ประจักษ์ตาลักครั้งเถิดจะเป็นจริงหรือไม, ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่ากรรมมีจริงเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ สามสี่เดือน ลูกชายของบุญเรืองคนที่สองก่อเรื่องขึ้นอีก บาร์โหนติดประตู  คราวนี้ขับรถปาดหน้า1วัยรุ่นด้วยกัน แล้วลงมาซักปีนจ่อหัวคู่อริเลยถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า บุญเรืองวิ่งเต้นกว่าเรื่องจะสำเร็จ เสียไปหลายล้าน เพราะวัยรุ่นคนนั้นเกิดเป็นลูกนายทหารยศนายพลเอก ข่าวว่าเรียกทั้งลูกทั้งบุญเรืองไปด่าเสียปนปีหมด“ลื้อแน่แคใหนระ” ท่านผู้นั้นขึ้หน้าขณะถามบุญเรืองยกมือไหว้ ตอบเสียงลัน “ไม่ครับ” ท่านนายพลลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้รับแขก หัวเราะแค่นก่อนถามอีก “ไม่แล้วทำไมเห็นคนเป็นสัตว์นึกจะยิงก็ยิงอย่าง บาร์โหนติดผนัง งั้นเหรอะ”

“เอางี้” ท่านพยักหน้าไปที่ลูกชายบุญเรือง แล้วบอก “ต่อยกับลูกอั๊วเอาไหมตัวต่อตัว”
ไอ้หนุ่มลูกเลขานักการเมืองส่ายหน้าตอบเสียงละห้อย “ไม่ครับ”นายพลผู้นั้นหัวเราะและถาม “อ้าว ก็เก่งไม่ใช่เหรอะ นี่ถ้าลูกอั๊วเป็นชาวบ้านธรรมดา ลื้อคงเรียกไปตบ เหมือนเคยทำกันคนอื่น ตามที่หนังสือพิมพ์เคยลงใช่ไหม เดี๋ยวเอาเข้าคุกซะหรอก”“อ'วขอบอกนะ: เงินห้า'ล้านที่ลื้อให้เพื่อยอมความปะไม่สนหรอก จะเอาไปทำบุญให้หมด ประวัติลื้อรู้ทั้งนั้น ระวังตัวเอาไว้”บุญเรืองยกมือไหว้อีกครั้งพร้อมพูดขอร้อง “กรุณาเถอะครับ ผมก็ให้ลูกมากราบขอโทษแล้ว”ท่านนายพลตวาดเสียงห้วน “เออ อย่าถือเป็นนักการเมืองแล้วทำอะไรตามใจชอบ สักวันเถอะอาจเข้าคุก ลื้อออกไปจากบ้านอั๊ว”บุญเรืองกับลูกถูกไล่อย่างไม่แยแสจากท่านนายพล ทั้งสองต้องรีบยกมือไหว้ปลกอีก แล้วลนลานออกจากบ้านหลังใหญ่ ขับรถออกด้วยหัวใจระทึก  บาร์โหนทำเพิ่มกล้าม อ่านข่าวแล้วยังนึก เห็นไหม ผลกรรมไม่จำเป็นต้องเจ็บไข้ได้ปวย หรืออดอยากไม่มีจะกิน คนรวยก็ถูกด่าได้เซ่นกันผมเองยังเคยด่าบรรดาพวกใหญ่โตมาแล้ว แต่ในใจนะครับไม่ให้ใครได้ยิน เดี๋ยวหาว่าละลาบละล้วง หรือไม,จะโดนคดีหมิ่นประมาท เดี๋ยวนี้ฟ้องกันจ้าละหวั่นจนคดีล้นศาลหรือยังไม่รู้ หมิ่นกันไปมาให้อีนุงตุงนังไปหมดพวกนักการเมืองน่ะบางทีไม่ด่าอย่างเดียวอยากจุดรูปสาปแช่งไปเลยเจ้าประคูน ให้ตกนรกหมกไหม้หากผู้ใดโกงชาติและประชาซนผู้เสียภาษีไปให้พวกท่านมีอำนาจบาตรใหญ่ เฮ้อ ว่าจะไม่ด่าให้ใครรู้แล้วเชียว แต่ไม่เป็นไรมิได้ออกชื่อใคร อย่ากินปูนร้อนท้องไม่งั้นจะด่าอีก

บาร์โหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น