วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

การปลดปล่อยดวงวิญญาณ ด้วยคาถาอาคม อันศักดิ์สิทธ์







เมื่อดวงวิญญาณทหารลาวนิรนามยังไม่ยอมไปเกิด จึงเกิดเรื่องชวนขนลุกพองสยองขวัญขึ้น กรรมจึงมาตกที่ชาวโคราชละแวกนั้น เมื่อมาจับกบจับเขียดและปลาที่ทุ่งส้มฤทธ งานเข้าแล้วเจอผีฑหารลาวนิรนามปรากฏตัวหลอกในรูปลักษณ์ที่ต่างกันไปตามแต่ผีตนไหนจะตายอย่างไร อาทิเช่น
ผีบางตนคอขาดห้อยร่องแร่ง
ผีบางตนคอขาดสะบั้น เหลือแต่ตัว
ผีบางตนแขนขาด ขาขาด
ผีบางตนไส้ทะลักออกมาห้อยร่องแร่ง
ผีบางตนดาบและหอกยังปักอยู่บนตัวเลือดเกรอะกรัง
ผีบางตนตาถลนออกมานอกเบ้า
ผี เชือกกระโดดราคาถูก

และลักษณะอื่นๆ เป็นตัน สุดจะที่พรรณนาอธิบายได้ผีทหารลาวนิรนามแต่ละตน บ่งบอกถึงความเคียดแค้นคนไทยมาก ส่งเสียงคำรามขู่จะเอาชีวิตชาวบ้านที่มาจับกบจับเขียดในบริเวณทุ่งส้มฤทธ แค่ปรากฏตัวหลอกชาวบ้านก็กลัวขี้หดตดหายกันแล้ว นี่ยังมาขู่คำรามจะฆ่าทุกคน ที่เข้ามาในทุ่งล้มฤทธี้หมดทุกราย ทำเอาชาวบ้านพากันแตกฮือ วิ่งหนีผีทหารลาวนิรนามสุดชีวิต สะดุดขาตัวเองบ้าง สะดุดสิ่งกีดขวางหกล้ม ล้มลุกคลุกคลาน นอนแช่นํ้าฝนอลหม่านแต่ชาวบ้านทุกคนก็รอดกลับบ้านได้ไม่มีใครถูกผีทหารลาวนิรนามฆ่าล้กราย แต่ถึงกระนั้นชาวบ้านก็ไม่เข็ดหลาบ แม้จะมีความกลัวผีมากแค่ไหนก็ตาม แต่เพื่อปากท้องของตนและครอบครัวจำต้องเสี่ยงชีวิต ไปจับกบจับเขียดที่ทุ่งล้มฤทธิ้กันอยู่ หลังจากที่เคย
โดน ลดน้ำหนัก ผีหลอกที่ทุ่งล้มฤฑขี้ คราวนี้ทุกคนป้องกันตัวดี มีพระเครื่องและเครื่องรางของขลังพกติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันผีหลอกนั้นเองและบางคืนซาวบ้านจะไม่เห็นตัวตนของผีทหารลาวนิรนามปรากฏตัว แต่จะได้ยินเสียงการต่อสู้กัน

พร้อมกับเสียงร้องครวญคราง เชือกกระโดดไร้สาย โหยหวนตังแว่วมา ชาวบ้านต้องคอยระวังตัวตลอดเวลาที่อยู่ในทุ่งล้มฤฑธิ้หากเผลอเมื่อไรอาจมีผีฑหารลาวนิรนาม มายืนแหกปากฉีกหน้าอกหลอกกันจะจะ มีหวังเป็นลมสลบแน่ แม้จะมีของดีคุ้มกันตัวก็ตาม ถ้าผีม้นจะหน้าด้านหลอกเสียอย่าง ย่อมหนีไม่พ้นเงื้อมมือมันแน่ ทางที่ดีควรระวังตัวไว้จะเหมาะดีนักลุงชัยเล่าว่า มีอยู่คืนหนึ่งแกกับปัาเปงไปจับกบจับเขียดที่ทุ่งสัมฤฑธิ้ มีเพื่อนบ้านไปด้วยกันหลายสิบคน คนเยอะ1ขนาดนี้ผี'ไม่น่าจะกล้าหลอกแน่ๆ นั่นเป็นความคิดของแกกับเพื่อนบ้าน จึงพากันยกโขยงไปเป็นหมู่คณะมีอะไรจะได้ช่วยกันได้ปรากฏว่าพอเจอผีหลอกกันจริงๆ ต่างคนต่างวิ่งหนีกันเอาตัวรอด เชือกกระโดดนับรอบ  แกกับเมียวิ่งหนีกันสุดชีวิต ไม่มีครั้งไหนจะวิ่งเร็วเท่าครั้งนี้นึ่แค่มันมาปรากฏยืนอยู่เฉยๆ ยังไม่ได้ลงมือหลอก ยังขวัญหนีดีฝ่อวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ผีที่ทุ่งสัมฤทธิ้เฮี้ยนสุดๆ ใครไปตอนกลางคืนเจอดีโดนหลอกทุกราย แม้แต่พระสงฆ์จากแดนไกลมาปักกลด ที่ทุ่งล้มฤฑธี้ยังเจอดีโดนผีทหารลาวนิรนามหลอกเรื่องนี้แก'ไม่เคยเห็นพระโดนผีที่ทุ่งสัมฤทธิ้'หลอก หากแต่ได้ยินเพื่อนบ้านที่เห็นนำมาเล่าให้ฟัง เท็จจริงประการใดนั่นแกฟังหูไว้หูลุงชัยเล่าว่า มีพระชื่อหลวงพี่บุญถา ถาวรโร เป็นพระมาจากบ้านเหล่าสวนปอ อำเภออ้อมน้อย

 (ปัจจุบันเป็นอำเภอเกษตรวิสัย) จังหวัดร้อยเอ็ดอาวุธสามัญท่านเดินธุดงค์รอนแรมมาหาสัจธรรม และปลีกวิเวกหาความสงบแก่ชีวิตของกิจของสงฆ์ มายังเป้าหมายคือเทือกเขาดงพญาเย็นสมัยนั่น ใช้เวลาเดินทางรอนแรมจากวัดบ้านเกิดมาจังหวัดโคราชหลายเพลา จนมามืดคาที่ทุ่งสัมฤทธแดน มิคสัญญี สถานที่เคยเป็นสนามรบ  ระหว่างคนโคราชกับทหารลาว จากเวียงจันทน์ มีศพทั้งสองฝ่ายล้มตายเกลื่อนทุ่งล้มฤทธ หลวงพี่บุญถาได้ปักกลดอยู่ ที่ทุ่งล้มฤทธึ๋ตามลำพังรูปเดียวเลย ๓ ทุ่มไปเท่านั้นแหละได้เรื่อง หลวงพี่บุญถางานเข้าเกิดอาเพศอาถรรพณ์ขึ้น อยู่ๆ มีลมพัดกระโชกมาแรงมาก จนกลดที่ปักไว้แทบจะหลุดลอยไปตามลม พร้อมกับมีเสียงประหลาดร้องครวญครางโหยหวนมากับสายลม ท่านมองออกไปข้างนอกกลด เชือกกระโดดสีชมพู ห่างกันหลายสิบวา เห็นเงาตะคุ่มจำนวนมากยืนออกันอยู่ หลวงพี่บุญถาเห็นเงาเหล่านั้นย้งขนลุกเกรียว จากประสบการณ์ที่ท่านเจอเรื่องเลวร้ายมานับไม่ถ้วนย่อมจะรู้ดีว่า ลมและเสียงลึกลับนี้ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ หากแต่เกิดจากอำนาจของภูตผีวิญญาณสำแดงเดชให้ปรากฏท่านต้องหยุดยั้งอำนาจลึกลับนี้ให้สงบจงได้ จึงนั่งสมาธิแผ่เมตตาจิตไปให้พวกเขา แต่พวกเขายังมิยอมหยุดกระทำ ยังคงโหมกระหนั้าฤทธี้เดชถาโถม1ใส่ท่านอีก แผ่เมตตาจิตก็แล้ว อุทิศส่วนกุศลให้ก็แล้ว ยังรังควานกันอีก ท่านจึงตัดสินใจใชไม้ตาย บริกรรมพระเวทหลายบทจนครบคาบ จึงเป่าลมปราณอาคมไปรอบๆ ตัวเท่านั้นแหละมีเสียงร้องโอดโอย เหมือนจะได้รับบาดเจ็บ ก่อนเสียงเหล่านั้นจะจางหายไป บัดนั้นบริเวณรอบกลดในทุ่งล้มฤทธิ้ เหลือแต่ความเงียบสงบมาแทน

วิธีกระโดดเชือก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น