วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เสื่อโยคะ มีความสำคัญอย่างไร่ ตอนที่ 1



บอใหม่ก็โบคดีใบ ท้าเจอพวก ป.ส.ด. พวก ป.ญ.อ. ก็นับว่าโบกร้าย ดังนั้น นักเล่นหุ้นบอใหม่ต้องสังเกตและพยายาบเก็บอารบณ์ไว้ไห้บากๆจะต้องบกวาบอดทนอดกลั้น ไกรจะพูด ไกรจะยุ ก็อย่าสน จงท้นหน้าทำบาหากินยองตนเองดีกว่าข้อความใดที่เป็นประโยชน์ก็ต้องหมั่นจดจำ นำเอาไปคิด การถามเพื่อนเล่นหุ้นด้วยกันนั้นเป็นของดี ไม่เสียหาย ทำให้ได้รู้ข้อมูลและการเคลื่อนไหวของหุ้น ซึ่งจะช่วยให้มีการตัดสินใจซื้อหุ้นที่ถูกต้อง ของดี ๆก็ต้องฟังเอาไว้ ของที่ไม่ดีก็ฟังเพียงครึ่งหู ส่วนที่เหลืออีกหูครึ่งนั้นเอาไว้คิดของเราเอง ฉะนั้นก่อนตัดสินใจว่าจะเล่นหุ้นควรจะต้องศึกษาวิธีใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือศึกษาเรื่องเทคนิเคิลให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งก่อน นักเล่นหุ้นสมัยใหม่จะต้องเชี่ยวชาญการใช้และศึกษาเรื่องเทคนิเคิล เพราะเทคนิเคิลเป็นตัวแปรและเป็นเครื่องมือช่วยการตัดสินใจว่า เราจะซื้อหุ้นตัวไหนดี ควรหรือไม่ควรซื้อ นักเล่นหุ้นมือใหม่บางกนกโม่เอาโหน ไม่พยายาบหากวาบรู้ แบ้กระทงจะอ่านตัวอักษรย่อยองหุ้นแต่ละต้วก็ไม่รู้ อะไร ๆ ก็ไปรู้  เสื่อโยคะpvc กานเยาดะไม่หบดอย่างน นอกจากจะสร้างควาบรำคาญไห้พู้อื่นแล้ว ยังเป็นพลเสัยแก่ตัวเอง การเข้าไปเล่นหุ้นก็เพื่อเพิ่มพูนเงินทอง แต่เมื่อไม่ยอมศึกษา ไม่สนใจเรื่องการทำมาหากินของตัวเองเช่นนี้ การเข้าไปเล่นหุ้นจึงถือว่าเข้าไปเพื่อจงใจทำลายทรัพย์ของตัวเองให้หมดไปมากกว่านักเล่นหุ้นประเกทน อย่าหวังว่าจะรารวยเพราะการเล่นหุ้นเลย คนโม่เอาไหนแบบนแนัจะมือาบีพยายเต้าอวยก็ต้องเจง...! 

บทที3นักเล่นหุ้นบอสมัครเล่นในสังคมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสังคมระดับไหน ท้าพูดกันกืงปิญหาปากท้องหรอปิญหาเศรษฐกิจ พาจะหบายกึง รุรกิจตลาดหุ้น ทั้งนเพราะตลาดหุ้นเป็นเงาสะท้อนยองเศรษฐกิจบองประเทศ เงินจำนวนเป็นแสนแลนล้านบาททั้งเงินไทยเงินนอกมากองทับถมกันอยู่ในตลาดหุ้นในหลายรูปแบบ และส่วนหนึ่งของจำนวนนั้นถูกแปรสภาพ และได้ถูกแบ่งสันปันส่วนในแต่ละวันเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท  เสื่อโยคะยางพารา ถ้าถามว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของชาติอย่างไร? ก็ต้องตอบว่า เงินจำนวนมากมายนั้นได้ถูกระดมมาจากบุคคลมากมายหลายชั้นและหลายอาชีพรวมทั้งได้มาจากการดำเนินธุรกิจทั้งในภาครัฐและภาคเอกซนในรูปแบบต่าง ๆ นั้นเองตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นแหล่งกลางกระตบเงินจากบุคคลจากองค์การ และจากวงการรุรกิจบากนายที่นล่'วนเทียวบ้องกับหุ้น เริ่มต้นด้วยการอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ ที่ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน นำหุ้นของตนเข้ามาจำหน่ายในตลาดหลักทรัพย์เรียกว่า เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ใครก็ตามที่ซื้อหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์จะได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนคนขายหุ้น คือ บริษัทหลักทรัพย์รับอนุญาต หรือที่เริยก1ว่า โบรกเกอร์ จะเป็นผู้จัดจำหน่ายและจัดซื้อแทนนักลงทุน กิจการทั้งหลายทั้งปวงนี้อยู่ภายใต้การดำเนินงานและรับผิดชอบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนมีตลาดหุ้น บริษัททั้งหลายต่างก็ทำมาหากินของตนเองแต่เพียงลำพัง บริษัทใดมีฐานะการเงินมั่นคงก็จะดำเนินกิจการไต้ดีตามอัธยาศัย บริษัทใดที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ส่วนมากจะต้องกู้เงินจากแหล่งเงินต่าง ๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ องค์การการเงินของรัฐทั้งภายนอกและภายใน และจากแหล่งเงินทุนทั้งหลายที่ให้กู้ การกู้ต้องเสียดอกเบี้ยตามธรรมเนิยมมากบ้างน้อยบ้าง รวมทั้งการเสียเบี้ยใบ้รายทางเพื่อการนี้ทั้งใต้โต๊ะบนโต๊ะ  ยางพารา และบริษัทเหล่านี้เมื่อได้เงินไปแล้วจะนำไปขยายกิจการของตนไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง การผลิต การจ้างงาน การตลาดรวมทั้งการนำเงินไปลงทุนสร้างธุรกิจอื่นอีกมากมาย เมื่อรวมแรงงานของแต่ละบริษัทเข้าด้วยกันแล้วจะมีจำนวนคนมหาศาลเป็นล้าน ๆ คนและแต่ละแรงงานที่รวมตัวกันเป็นครอบครัวหรือบริวารจะยิ่งเพิ่มทวีจำนวนมากขึ้นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทุกชนิดทุกประเภทที่ได้ถูกนำออกไปจำหน่ายแก่ผู้บริโภคจะเป็นจำนวนมหาศาลเช่นกัน ทำให้กลายเป็นวงจรของเศรษฐกิจที่มีส่วนเกี่ยวโยงถึงตลาดหุ้นเมื่อมีตลาดหุ้น บริษัททั้งหลายไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างก็ขออนุญาตนำหุ้นของตนเข้ามาจำหน่ายให้กับนักลงทุนโดยผ่านตลาดหุ้นเงินที่ได้จากนักลงทุนก็ถูกนำไปใช้เพื่อการขยายงานสร้างความเจริญเติบโตต่อกิจการของแต่ละบริษัท เงินที่ได้ไปจากนักลงทุนไม่ต้องเสียดอกเบี้ยไม่ต้องเสียเงินใต้โต๊ะ   

ผู้ซื้อหุ้นหรือผู้ลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากเงินลงทุนของตนในรูปของกำไรหรือเงินษันผล หรือถ้าจะนำหุ้นของตนออกขายในตลาดหุ้น ถ้าเห็นว่ามีกำไรก็ไม่ถือว่าผิดกติกา !ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกานั้นถือว่า ควานเจริญหริอควาบกดกอยบองตลาดหุ้น จะเป็นตัวแปรทนสดงกีงควานบนคงหรอควานไม่บนคงทางเศรษฐกิจยองประเทศ  เสื่อโยคะnike  สำหรับประเทศไทยจะคิดอย่างนี้บ้างหรือเปล่าผมไม่ทราบ...ทราบแต่ว่า ถ้าวันไหนหุ้นตกมาก ๆ ตลาดหุ้น'ป่นปวน รัฐบาลไหนก็รัฐบาลนั้นจะต้องถกวิพากษ์วิจารณ์หรือถกด่าเช้าด่าเย็น ถ้าใครไม่เชื่อลองไปถาม มิสเตอร์ “ที” (คนที่ทำแชร์ชม้อยล้ม!) เอาเองก็แล้วกัน!นี่แหละครับ ที่ผมว่าในปัจจุบันผู้คนสนใจเรื่องหุ้นกันมากมายใครไม่รู้หรือไม่เคยได้สัมผัสเรื่องของหุ้นก็จะถูกมองว่ามาจากส่วนไหนของประเทศ !   นักเล่นหุ้นมือลมัครเล่นส่วนมากเป็นผู้มีความรูเรื่องหุ้น แต่ที่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการหุ้นโดยตรงนั้นเป็นเพราะต่างก็มีเหตุผลของตนเอง...เช่น1.    บีหน้าที่การงานโนระดับสูง มืความรับผิดชอบจะไม่กล้าเล่นหุ้นโดยตรง เพราะเกรงจะมืผลกระทบถึงหน้าที่การงาน บุคคลประเภทนี้มืเงิน มืกำลังซื้อสูง...แต่ก็ยังอยากจะรวยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ใจจริงแล้วอยากจะเข้าไปเล่นหุ้นจนตัวสั่นด้วยซื้าไป คนประเภทนี้ในวงการบันเทิงเขาเรียกว่าเป็นพวก “หน่อมแน้ม”2.    พวกบีเงินฟากเพื่อกินดอกเนย ตามบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ทั้งหลายต่างได้รับแจก “หุ้นจอง” คือ เสื่อโยคะแบบไหนดี  หุ้นออกขายก่อนเข้าตลาดหุ้นในราคา“อันเดอรั!ร้ท์เตอร์” เมื่อหุ้นตัวนั้นเข้าตลาด ก็จะย่องเข้าไปขายทำกำไรเป็นครั้งคราว สมัยตลาดหุ้นบุกเบิก หุ้นจองเมื่อเข้าตลาดส่วนมากจะมีราคาสูงได้กำไร 50% ขึ้นไป มีหุ้นบางตัว เช่น หุ้นลามารถได้กำไรถึง 550% !3.    พวกบีเงินแต่{ปีนพวกกลัว ๆ กล้า า กล้านั้นอยากเข้าไปเล่นเพราะอยากรวย ส่วนกลัวนั้น กลัวว่า ถ้าขาดทุนจะทำให้รวยน้อยลงมืนักเล่นหุ้นสมัครเล่นจำนวนไม่น้อยที่เล่นหุ้น โดยมอบให้คนอื่นทำการซื้อขายแทน อย่างเช่น พวกเล่นหุ้นกองทุน เล่นวอแรนทํหรือให้คนอื่นกู้เงินไปเล่นหุ้น4.    พวกแน่บ้านหรือพวกทบีอิสระเสรี เวลาสามีออกจากบ้านไปทำงานตามปกติก็แอบไปเล่นไพ่ตามบ่อนต่าง ๆ และจะกลับบ้านก่อนหน้าสามี แม่บ้านประเภทนี้นิยมซื้ออาหารถุงติดมือกลับบ้านเพื่อ

เสื่อโยคะ tpe

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น